ปีเตอร์ เช็ก อดีตสุดยอดผู้รักษาประตูเชลซีและทีมชาติสาธารณรัฐเช็ก เขาเกิดเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 1982 ที่เมืองพัลเซ่น ประเทศสาธารณรัฐเช็ก เขาเป็นเด็กที่มีความชื่นชอบในกีฬาฟุตบอลเป็นอย่างมาก และมีความฝันที่อยากจะเป็นนักฟุตบอลอาชีพให้ได้

ในปี 1987 ซึ่งในตอนนั้นเขามีอายุ 7 ขวบ ปีเตอร์ เช็ก ก็เริ่มเดินตามความฝันของตัวเองด้วยการเข้าร่วมในศูนย์ฝึกของวิคตอเรีย พัลเซ่น โดยในช่วงแรกเขามักจะได้รับหน้าที่ให้เล่นในตำแหน่งกองหน้าอยู่เสมอ เนื่องจากเขาเป็นเด็กที่มีรูปร่างสูงใหญ่ ทำให้มีความได้เปรียบคู่ต่อสู้ แต่เมื่อเขามีอายุ 10 ขวบ เขาก็ถูกปรับตำแหน่งให้เป็นผู้รักษาประตู และหลังจากนั้นเขาก็ได้รับหน้าที่เป็นผู้รักษาประตูอยู่อย่างต่อเนื่อง ทำให้เขาเริ่มชื่นชอบการเป็นผู้รักษาประตูมาตั้งแต่นั้น

ในปี 1999 เขาได้เข้าสู่เส้นทางของนักฟุตบอลอาชีพอย่างเต็มตัวกัลสโมสรบัลซานี่ ซึ่งในตอนนั้นเขามีอายุเพียงแค่ 17 ปี  ปีเตอร์ เช็ก ในเวลานั้นเขาพยายามฝึกฝนทักษะของตัวเอง จนกลายเป็นผู้รักษาประตูดาวรุ่งที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก จนในที่สุด ในปี 2001 เขาก็ได้เข้าร่วมทีมกับ สปาร์ต้า ปราก หนึ่งในทีมฟุตบอลมหาอำนาจของสาธารณรัฐเช็ก เขากลายเป็นผู้รักษาประตูดาวรุ่งอนาคตไกล และได้มีชื่อให้ไปเล่นกับทีมชาติเช็ก ในรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี และสามารถคว้าแชมป์ยูโรรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี ในปี 2002 มาได้สำเร็จ และหลังจากนั้นเขาก็เริ่มเป็นที่รู้จักในแวดวงลูกหนัง

ในปี 2002 ปีเตอร์ เช็ก ได้รับโอกาสย้ายไปเล่นนอกบ้านเกิดของเขาเป็นครั้งแรกกับสโมสรแรนส์ สโมสรฟุตบอลในลีกเอิงฝรั่งเศส ในช่วง 2 ฤดูกาลที่เขาอยู่ที่นี่ ทำให้เขาได้พัฒนาฝีมือของเขาให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น จนทำให้เขาได้รับความสนใจ โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีมของเชลซีในตอนนี้ ต้องตัดสินใจดึงตัวเขาเข้าร่วมทีมทันที

ในปี 2004  ปีเตอร์ เช็ก ย้ายมาร่วมทีมเชลซี ด้วยค่าตัว 7.1 ล้านปอนด์ โดยมีระยะเวลา 5 ปี และการย้ายมาเล่นที่เชลซี ก็ทำให้เขากลายมาเป็นผู้รักษาประตูระดับโลกได้อย่างแท้จริง ในฤดูกาลแรกที่เขาเข้าร่วมทีม เขาก็สามารถสร้างผลงานได้อย่างน่าประทับใจด้วยการเก็บคลีนชีทได้มากถึง 21 ครั้ง จากการลงเล่น 38 นัด และเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เชลซีคว้าแชมป์ลีกสูงสุดมากได้ในฤดูกาล 2004-2005 และเป็นการคว้าแชมป์ครั้งแรกในรอบ 50 ปีของสโมสรอีกด้วย

เขาค้าแข้งอยู่กับเชลซี ยาวนานถึง 11 ฤดูกาล เป็นส่วนสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์รายการต่างๆ ได้อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น  พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2004-2005, 2005-2006, 2009-2010, 2014–15 เอฟเอคัพ ฤดูกาล 2007, 2009, 2010, 2012 ลีกคัพ ฤดูกาล 2005, 2007, 2015 เอฟเอคอมมิวนิตี้ชิลด์ ฤดูกาล 2005, 2009 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2011-2012 นอกจากนี้เขายังเป็นเจ้าของสถิติผู้รักษาประตูที่เก็บคลีนชีทได้มากที่สุดตลอดกาลของพรีเมียร์ลีก ในจำนวน 202 นัด

ในฤดูกาล 2006-2007 เขาประสบอุบัติเหตุร้ายแรงในระหว่างการแข่งขัน ในเกมที่พบกับเรดดิ้ง เมื่อถูกคู่แข่งเข้าชาร์จหนักจนทำให้เขาถึงกับหมดสติ และปรากฏว่ากะโหลกศีรษะร้าว จนต้องเข้ารับการผ่าตัดโดยด่วน ทำให้เขาต้องพักรักษาตัวยาวอยู่หลายเดือน และเป็นเหตุผลทำให้เขาต้องสวมเครื่องป้องกันพิเศษที่ศีรษะที่ครั้งที่ลงสนาม และมันก็กลายมาเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเขาไป

ในฤดูกาล 2014-2015 ปีเตอร์ เช็ก ตกไปนั่งในม้านั่งสำรอง เกือบทั้งฤดูกาล ทำให้เขาตัดสินใจย้ายทีมหลังจากจบฤดูกาลนั้น เนื่องจากมีความต้องการที่จะลงสนามเป็นตัวจริง

ในปี 2015 ปีเตอร์ เช็ก ในวัย 33 ปี ตัดสินใจย้ายไปเล่นให้กับสโมสรอาร์เซนอล ด้วยค่าตัว 11 ล้านปอนด์ โดยมีสัญญา 4 ปี เนื่องจากเขาต้องการที่จะอยู่ในลอนดอนกับครอบครัวของเขา และเขาก็สามารถสร้างผลงานการป้องกันประตูให้กับต้นสังกัดใหม่ได้อย่างยอดเยี่ยม ช่วยให้อาร์เซนอลคว้าทริปเปิลแชมป์ตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่เขาเข้ามาร่วมทีม

ในฤดูกาล 2016-2017 เขาประกาศเลิกเล่นให้กับทีมชาติเช็ก ภายหลังจบจากรายการชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 รวมสถิติที่เขาได้ลงสนามรับใช้ทีมชาติไปทั้งหมด 124 นัด

ในฤดูกาล 2018-2019 ปีเตอร์ เช็ก ในวัย 36 ปี ตกเป็นตัวสำรอง ภายหลังจากการเข้ามาร่วมทีมของ แบรนด์ เลโน่ และในเดือนมกราคม 2019 ปีเตอร์ เช็ก ก็ออกมาประกาศอำลาการเป็นนักฟุตบอลอาชีพของเขาอย่างเป็นทางการ โดยเขาค้าแข้งเป็นนักฟุตบอลอาชีพยาวนานถึง 20 ปี และสามารถคว้าถ้วยได้ในทุกรายการที่มี และตลอดเวลาในการค้าแข้งนั้น ปีเตอร์ เช็ก ก็เคยมีข่าวเสียหายเลยแม้แต่ครั้งเดียว

และหลังจากทำเขาอำลาสนามไปแล้ว เขาก็ได้เดินตามความฝันของเขาอีกอย่างหนึ่งคือ การเล่นดนตรีด้วยการตีกลอง และความสามารถของเขานั้น ก็สามารถเล่นได้ในระดับมืออาชีพ และนอกจากนี้เขายังได้กลับมาทำงานกับเชลซีอีกครั้ง ในตำแหน่งที่ปรึกษาทางเทคนิคและประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เกิดขึ้นมาเพื่อเขาโดยเฉพาะ

แต่แล้ว ปีเตอร์ เช็ก ก็ได้ตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิตของเขาอีกครั้ง ด้วยการตกลงเซ็นสัญญาเป็นผู้รักษาประตูให้กับทีมฮอกกี้น้ำแข็งอาชีพ ที่ชื่อว่า ไกด์ฟอร์ด ฟีนิกซ์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความฝันในวัยเด็กของเขา ซึ่งในตอนนั้นเขาก็ยังทำงานให้กับเชลซีเหมือนเดิม